| 
   
 ดูกร 
สถาปนิกที่รัก 
. อาคารสูงที่ท่านออกแบบ ให้ กระจกประตู หน้าต่างด้านนอกอาคาร หนาเท่ากันทั้งตึกนั้น อาจทำให้ท่าน กลายเป็นฆาตกรได้ เป็นอย่างดีเชียว !!  การก่อสร้างอาคาร  เป็นการนำเอาวิทยาการและเทคโนโลยีไปฝืนธรรมชาติ  การออกแบบอาคารสูง ยิ่งเป็นการ ฝืนกฎธรรมชาติ หนักเข้าไปอีก   เพราะมีสิ่งสำคัญ ที่เข้ามากระทบอาคาร มากกว่า อาคารเตี้ยก็ คือ  "แรงปะทะของลม
(Win Load)"   ซึ่งจะมีกำลัง แรงมากขึ้นเรื่อย ๆ  เมื่ออาคารสูงขึ้นไป   การที่สถาปนิก ใช้กระจกด้านนอกอาคาร มีความหนาเหมือนกันหมด   กระจกชั้นล่าง ๆ ที่ไม่มีแรงลม เข้ามากระทำ จะอยู่ได้  แต่กระจกชั้นสูง ๆ  ที่มีแรงลมเข้าไปกระทบ จะทนไม่ไหว  อันตรายสูงสุด จะเกิดขึ้น ตอนที่มีพายุ  และท่านเปิดประตู เข้าห้อง  (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตึกที่มีช่องโล่งตรงกลางตึก)  ความอัดอากาศภายใน และภายนอก จะแตกต่างกันมาก   กระจกที่ท่านออกแบบไว้นั้น มีโอกาสแตก  และ 
.  "บินมาตัดคอท่าน !!!!!" 
 เพื่อความสบายใจ  และสบายตัวของท่าน  มีสูตรง่าย ๆ ในการกำหนดความหนา ของกระจก  (แบบธรรมดา :  Float
Glass)  ตามขนาดของช่องเปิด   และความสูงของอาคาร   ไว้ดังต่อไปนี้
 
 
 
	| ขนาดช่องเปิด(เป็น
      ต.ร.ม.)
 |  ชั้น  1 - 4(0.11 m.)
 |  ชั้น  5 - 10(11.30 m.)
 | ชั้น  10 - 30  (30  m.
      up)
 |  
	|  1.00 |  6 mm. |  6 mm. |  6 mm. |  
	| 2.00 | 6 mm. |  6 mm. | 6 mm. |  
	| 3.00 | 6 mm. | 6 mm. |  8 mm. |  
	|  4.00 |  6 mm. |  8 mm. |  8 mm. |  
	| 5.00 | 6 mm. |  8 mm. | 10 mm. |  
	| 6.00 |  8 mm. | 10 mm. | 10 mm. |  
	| 7.00 | 8 mm. | 10 mm. | 12 mm. |  
	| 8.00 | 8 mm. |  12 mm. | 12 mm. |  
	| 9.00 |  10 mm. | 12 mm. |  12 mm. |  
	| 10.00 |  10 mm. | 12 mm. | (ห้ามใช้) |  
	| 11.00 | 10 mm. |  12 mm. | (ห้ามใช้) |  
	| 12.00 | 12 mm. | (ห้ามใช้) | (ห้ามใช้) |  
	| 13.00 |  12 mm. | (ห้ามใช้) |  (ห้ามใช้) |  
	| 14.00 |  12 mm. | (ห้ามใช้) |  (ห้ามใช้) |  
	| 15.00 | 12 mm. |  (ห้ามใช้) | (ห้ามใช้) |  
	| 16.00 | 12 mm. | (ห้ามใช้) |  (ห้ามใช้) |  
	| 17.00 | (ห้ามใช้) | (ห้ามใช้) | (ห้ามใช้) |  
 แต่หากจะให้ดีกว่านี้  น่าจะติดต่อปรึกษากับบริษัทขายกระจกโดยตรงจะดีกว่า เพราะ หากต้องการ ใช้ช่องเปิด ขนาดใหญ่โต และวงเล็บว่าห้ามใช้  อาจจะต้องเปลี่ยน ชนิดของกระจก เป็นอย่างอื่นเช่น Tempered   หรือ  Laminated  Glass  เป็นต้น
 
 อย่าออกแบบบานเกล็ดกระจกให้กว้างมากนัก !  บานเกล็ดกระจก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปรับมุมได้) ไม่น่าจะออกแบบให้มีความกว้าง ของช่องบานมากนัก เพราะกระจก จะรับน้ำหนักตัวเอง ไม่ไหว (โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งการรับน้ำหนัก ตามแนวนอน) จะแอ่น หรือแตกหักได้ 
. แต่หากคิด จะใช้กระจกที่หนาขึ้น เพื่อไม่ให้แอ่น ก็ระวัง อุปกรณ์ปรับมุม จะรับน้ำหนัก ของกระจกไม่ไหว 
 แม้คิดจะใช้อุปกรณ์ขนาดใหญ่ ที่แข็งแรง พอรับน้ำหนักกระจกได้ ก็ขอให้เกรงใจ คนที่ต้องมาหมุน เปิดปิด ว่าเขาจะลำบากเพียงไร (อาจจะเป็น ตัวท่านเองก็ได้) 
 .ดังนั้น เพื่อไม่ให้ยุ่งยาก วุ่นวายนักหนา 
. ก็อย่าใช้บานเกล็ด ที่มีขนาดโตกว่า 90 ซม. เลย หากขนาดช่องโตมากกว่านั้น ก็แบ่งออก เป็น 2 ช่องดีกว่า
 
 บานประตูไม้อัดบิดงอ
.จะแก้ไขได้อย่างไร ?  (แก้ไขไม่ได้ ต้องทิ้งไปแล้วเอาบานใหม่เข้ามาเปลี่ยนแทน)
 
 กระจกมีกี่ชนิด แล้วจะเลือกใช้อย่างไร ?  ระจกมีหลายชนิดแน่นอน แต่หากเราจะแบ่งความแข็งแรงของกระจกเพื่อการใช้งานให้ถูกที่ และไม่บินลงมา ทำอันตราย ก็น่าจะแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด คือ : 1. กระจกธรรมดา หรือที่เรียกภาษาเทคนิคว่า Anneal Glass เวลาแตกจะเป็นปากปลาฉลาม ซึ่งอันตราย แต่ยังโชคดี ที่รอยแตกจะวิ่งเข้าสู่กรอบ ทำให้ส่วนใหญ่ ยังไม่หล่นลงมาโดยทันทีทันใด มองจากภายนอกไม่เป็นลอนดูเรียบสวยงาม
 2. กระจก Tempered คือเอากระจกธรรมดามาทำให้ร้อนเกือบหลอมละลายใหม่ แล้วทำให้เย็น จะเป็นการ เพิ่มความแข็งแรง เวลาแตกจะแตกกระจายเป็นเม็ดเล็ก ๆ ไม่เป็นอันตรายมาก แต่จะไม่มีรอยแยกวิ่งเข้ากรอบ ทำให้เมื่อแตกแล้วจะร่วงหล่นลงมาทันที ดูจากภายนอกจะเป็นลอนเล็กน้อย จึงดูหลอกตา ในบางมุมมอง
 3. กระจก Heat Strengthen จะคล้ายกับกระจกสองอย่างแรกปนกัน โดยนำกระจกธรรมดามาให้ความร้อน (แต่ไม่ถึงขนาด Tempered
Glass) จึงมีความแข็งแรงมากขึ้น (ไม่เท่ากับ
Tempered) เวลาแตกจะแตกแบบ Float มองดูภายนอกเป็นลอนบ้างบางครั้ง แต่ไม่มาก
 4. กระจก Laminated ซึ่งความจริงไม่น่าจะนำมาเปรียบเทียบกับกระจกทั้ง 3 อย่างแรก เพราะไม่ใช่แตกต่างกัน ที่วิธีการผลิต แต่เป็นการเอากระจก (อะไรก็ได้) มารีด ประกบติดกัน ด้วยแผ่นฟิล์ม ทำให้เกิด ความแข็งแรงมากขึ้น เวลาแตก.. แผ่นฟิล์มจะทำหน้าที่ยึดติด ไม่ให้ร่วงหล่นลงมาได้
 จากกระจกที่แบ่งตามความแข็งแรงในการใช้ดังกล่าวข้างต้น ก็อาจจะแยกกระจก ออกเป็นไปตาม ความสวยงาม หรือผ่านวิธีกรรมอื่น ๆ ได้อีกต่อไป เช่นทำให้ออกมา เป็นกระจกกรองแสง กระจก สะท้อนแสง กระจกเงา ฯลฯ 
. แต่นั่นคงไม่ใช่ ความสำคัญประการแรก เนื่องจากเราสามารถ นำกระจก
Float, Tempered, Heat Strengthen, หรือ Laminated  มาทำเป็นกระจกตัดแสง กระจกสะท้อนแสง หรือกระจกเงาได้ไม่ยากนัก
 
 อย่าติดพัดลมระบายอากาศบนผ้าม่าน  ความหลงลืมอีกอย่างที่มักเกิดขึ้นโดยไม่ได้เตรียมการเอาไว้ก่อนก็คือ การติดตั้งผ้าม่านเต็มช่องเปิด (ประตู- หน้าต่าง) แล้วลืมเผื่อช่อง สำหรับติดตั้ง พัดลมระบายอากาศ ทำให้เวลาจะเปิดพัดลมต้อง รูดม่านก่อน ลำบาก และไม่น่าดู 
. ดังนั้นหากจะติดพัดลมระบายอากาศตรงไหน ตรวจดูก่อนว่า มีม่านหรือไม่ หากมี ก็ขอให้ออกแบบเตรียมไว้ก่อนด้วย  
... อ่านต่อ  
 |